In บทความ, วุฒิพงศ์ ถายะพิงค์

ทุนทางใจ:mental capital

เมื่อพูดคำว่าทุนหรือต้นทุนคนส่วนใหญ่มักนึกถึงแต่เรื่องของเงินตราว่าเป็นสิ่งสำคัญในการทำทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต แต่สำหรับในโลกมนุษย์แล้ว ทุนมนุษย์ถือเป็นทุนที่ยิ่งใหญ่กว่าสิ่งใดทั้งสิ้นเพราะมนุษย์เปี่ยมด้วยสติปัญญาที่จะพัฒนาสิ่งใดใดก็ได้ทั้งนั้น และสิ่งสำคัญที่ซ่อนเร้นอยู่ในทุนมนุษย์นั้นคือทุนทางใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่จะขับเคลื่อนและกำหนดทิศทางชีวิตและสังคมไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองหรือหายนะใดๆก็ได้ทั้งสิ้น

20636318 – three-generation asian family talking in living room

#ทุนทางใจซึ่งในภาษาอังกฤษผู้เขียนขอเลือกใช้คำว่า mental capital และอาจไม่คุ้นหูใครๆในสารระบบทางสุขภาพจิตเลย แต่เป็นสิ่งที่ผู้เขียนใคร่ครวญและสังเคราะห์ขึ้นมา และเห็นว่าเป็นปัจจัยสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ทุกคน ดังมีคำกล่าวว่า “จิตเป็นนายกายเป็นบ่าว” หรือมโนกรรมจะเป็นตัวกำหนดวจีกรรมและกายกรรม เพราะฉะนั้นผู้ที่มีทุนทางใจที่ดีย่อมส่งผลให้ทุกอย่างในชีวิตออกมาในทางที่ดีงาม

คำว่า “ทุน” ส่วนใหญ่คนมักจะคุ้นหูกันในทางเศรษฐศาสตร์ เช่นการสะสมเงินตราก็เรียกว่าสะสมทุนหรือหากจะต้องทำกิจการใดใดแล้วทุนไม่พอก็ต้องแสวงหาแหล่งเงินทุนเพื่อนำมาทำกิจการต่างๆเป็นต้น ส่วนทุนทางใจนั้นก็ไม่ได้ต่างจากปัจจัยทางเศรษฐศาสตร์ที่ต้องมีปัจจัยการผลิตทางจิตใจให้เข้มแข็งเพื่อส่งผลให้ทุนมนุษน์โดยรวมเปี่ยมคุณภาพ ซึ่งจำเป็นต้องมีทั้งการสะสมและแสวงหาเพิ่มเติมไปพร้อมๆ กันนั่นเอง

ผู้ที่ต้นทุนทางจิตใจน้อยมักจะส่งผลออกมาในลักษณะที่เป็นคนจิตใจคับแคบ แร้นแค้นหวงแหน อึดอัดคับข้องใจ อิจฉาริษยาผู้อื่น เจ้าคิดเจ้าแค้น ชีวิตมีแต่การคิดลบ และรู้สึกแต่ในทางที่เลวร้าย ไร้ความภาคภูมิใจในชีวิต จนอาจส่งผลต่อสุขภาพจิตให้แปรปรวนและเจ็บป่วย ข้องเกี่ยวกับสิ่งเสพติด อบายมุข ต่อต้านสังคมรูปแบบต่างๆ ทำลายหรือทำร้ายชีวิตและทรัพย์สินของทั้งตนเองและผู้อื่น ดังนั้นทุนทางใจจึงต้องสะสมและสร้างเสริมให้ยั่งยืนและมากมายไว้ตลอดชีวิตและแสวงหาเพิ่มเติมในบางกาลเวลา ดังนี้

1)#เลี้ยงดูด้วยความรักและปลอดภัย บุคคลที่ได้รับการเลี้ยงดูมาด้วยความรักความอบอุ่นและมีความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตตั้งแต่วัยเด็กนั้น นับว่าโชคดีมากเพราะเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างทุนทางใจได้เป็นอย่างดี อนึ่งการสร้างความรักความอบอุ่นและความปลอดภัยนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองควรเลี้ยงลูกด้วยการโอบกอดและบอกรักลูกเป็นระยะๆ และไม่ทำร้ายเด็กทั้งกายและใจ กระทั่งสร้างความไว้วางใจในตัวเขาอย่างสมเหตุผล

การโอบกอดและบอกรักลูกเป็นระยะๆนั้น เป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้เด็กๆได้เรียนรู้ซาบซึ้งและเชื่อมั่นว่าตนเองเป็นที่รักของพ่อแม่ผู้ปกครอง ซึ่งจะบ่มเพาะความรู้สึกที่มั่นคงปลอดภัยทางใจในตัวเขา จนส่งผลให้เติบโตมาเป็นคนที่มีความเข็มแข็งทางจิตใจ ทั้งจากทฤษฎีทางจิตวิทยาและประสบการณ์ในการให้การปรึกษาทางสุขภาพจิต พบว่าวัยรุ่นและผู้ใหญ่จำนวนไม่น้อยที่เติบโตมาโดยปราศจากการโอบกอดและพ่อแม่ไม่เคยบอกรักนั้น จะเป็นแผลในใจซึ่งยากแก่การเยียวยาเป็นอย่างยิ่ง

2)#สั่งสมและสร้างเสริมความภาคภูมิใจในชีวิต การสั่งสมและสร้างเสริมความภาคภูมิใจในชีวิตทุกช่วงวัยนั้นเป็นปัจจัยสำคัญอีกอย่างหนึ่งในการสร้างเสริมทุนทางใจให้เข้มแข็ง กล่าวคือทั้งเด็กและวัยรุ่นแม้กระทั่งผู้ใหญ่ ควรได้รับการส่งเสริมให้แสดงออกในสิ่งที่เขาชื่นชอบและถนัด เพราะทุกๆครั้งที่เขาได้กระทำในสิ่งที่เขาชื่นชอบและถนัดนั้น เขาจะประสบความสำเร็จเป็นระยะๆจนส่งผลให้เกิดความรู้สึกที่ดีงามและความภาคภูมิใจในตัวเองนั่นเอง

3)#สั่งสมและสร้างเสริมความสัมพันธ์ให้ลึกซึ้งและกว้างขวาง ในทางจิตวิทยานั้นมนุษย์ทุกคนจะมีความสุขจากมิตรภาพและความผูกพัน ดังนั้นการที่บุคคลเติบโตมาแล้วรู้สึกถึงความเป็นมิตรและความผูกพันต่อกันของทั้งบุคคลในครอบครัว ญาติมิตร เพื่อนฝูง ครูบาอาจารย์และผู้ร่วมงานนั้น จะส่งผลต่อการสร้างเสริมทุนทางใจให้มีความอบอุ่นมั้นคงปลอดภัยและไร้ความอ้างว้างโดดเดี่ยวได้เป็นอย่างดี เพราะความรู้สึกที่อ้างว้างโดดเดี่ยวนั้นปั่นทอนทุนทางใจเสมอ

อนึ่งการสั่งสมและสร้างเสริมความสัมพันธ์ที่ดีงามและลึกซึ้งนั้น สามารถทำได้หลากหลายวิธี อาทิ มีกิจกรรมต่างๆร่วมกันในครอบครัว มีเวลาสำหรับปรึกษาหารือและนันทนาการร่วมกัน ส่วนในระดับเพื่อนฝูงนั้นควรมีทั้งการรักษาและสร้างมิตรใหม่ โดยมีกิจกรรมร่วมสุขร่วมทุกข์กันเป็นระยะๆ เพื่อสร้างความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องและลึกซึ้ง กระทั้งให้การช่วยเหลือเกื้อกูลกันอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยสร้างและรักษาความสัมพันธ์ได้เป็นอย่างดี

4)#ศึกษาศาสนาและปรัชญาที่ตนเองนับถือให้ลึกซึ้ง การศึกษาให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ทั้งหลักวิชาการและวิถีปฏิบัติในศาสนาที่แต่ละคนนับถือ จะช่วยสร้างความเข้าใจในการดำรงชีวิตตามหลักศาสนานั้นๆ จะเป็นเครื่องยึดเหนียวจิตใจและส่งผลให้ชีวิตมีความผูกพันทางจิตวิญญาณและรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าในสายตาของพระเจ้าและความเที่ยงธรรมทางธรรมชาติดังมีคำกล่าวว่า “#มีธรรมะเป็นเครื่องอยู่” นั่นเอง

ดังนั้นหากทุกคนตระหนักและลงมือสร้างสมและส่งเสริมปัจจัยการผลิตทุนทางใจด้วยวิธีการทั้งสี่ประการดังกล่าวมา ก็จะช่วยสร้างเสริมทุนทางใจให้แก่กันได้เป็นอย่างดี

Assoc. Prof. Dr. วุฒิพงศ์ ถายะพิงค์

นักส่งเสริมสุขภาพจิตด้วยสหศาสตร์ ประธานสถาบันพัฒนาศักยภาพมนุษย์และกลยุทธ์สู่ความสำเร็จ wuttipong academy และกรรมการบริหารมูลนิธิสุขภาพจิตโรงพยาบาลสวนปรุง

Recommended Posts