In บทความ, วุฒิพงศ์ ถายะพิงค์
ฮึดสู้ด้วยพลังใจเพื่อชัยชนะในชีวิต

“#มีแรงบันดาลใจอะไรที่ช่วยให้คุณตัดใจจากการเลิกดื่มสุราได้สำเร็จครับ” นั่นเป็นคำถามที่ผู้เขียนสัมภาษณ์ผู้ที่เลิกดื่มสุราได้สำเร็จประมาณ 20 ราย ซึ่งแต่ละรายเคยดื่มสุรามานานตั้งแต่ 5-20ปี จนเกิดปัญหาต่อสุขภาพมากมาย ทั้งร่างกายทรุดโทรมและมีอาการทางจิตหลายอย่าง เช่น ซึมเศร้า หวาดระแวง วิตกกังวลและประสาทหลอน บางรายถึงขั้นทำร้ายผู้อื่นและพยามจะฆ่าตัวตาย กระทั่งส่งผลกระทบต่อความรุณแรงและความสัมพันธ์ในครอบครัวและสังคมอีกมากมาย

พบความสำเร็จในเป้าหมายที่ตั้งไว้เป็นระยะๆ

คำตอบที่ได้จากคำถามดังกล่าวเช่น “คือลูกชายผมก็โตขึ้นมาทุกๆวันจวนจะเรียนชั้นมัธยมต้นแล้ว ผมไม่อยากให้เขาเห็นว่าพ่อติดสุรางอมแงมและเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีแก่เขา และแม่ของผมก็แก่ขึ้นทุกวันไม่มีใครช่วยเลี้ยงดู ส่วนภรรยานั้นเลิกกับผมเพราะผมติดสุรานั่นเอง ผมจึงคิดว่าถึงเวลาที่ผมจะต้องเลิกดื่มให้ได้เสียที ประกอบกับผมเป็นเจ้าของร้านอาหาร บ่อยครั้งที่พบเห็นลูกค้าดื่มสุราในร้านและเมามายจนไร้สติ บ้างก็อาเจียร บ้างก็เอะอะโวยวายและทำร้ายกันจนข้าวของเสียหาย จึงเป็นแรงบันดาลใจให้ผมตั้งใจเลิกดื่มสุราครับ”

“คืออย่างนี้ครับ ผมรู้สึกสงสารลูกชายวัยรุ่น เมื่อผมเมาสุราจนดูแลตัวเองไม่ได้ เขาจะต้องมาช่วยพยุงผมเข้าบ้านแทบทุกครั้ง และเขาก็ร้องไห้พร้อมพรรณาด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกเสียใจไปด้วยว่า ทำไม่พ่อถึงเป็นเช่นนี้ ผมเป็นห่วงพ่อมากนะครับ เมื่อไหร่พ่อจะเลิกดื่มครับ เขาเล่าว่า ทุกครั้งที่ลูกพยุงเขาเข้าบ้านและร้องไห้ เขารู้สึกสะเทือนใจเสมอ จนวันหนึ่งเขาฮึดสู้อย่างเต็มกำลังที่จะเลิกดื่มสุราให้ได้เพื่อลูกชายของเขา และเข้ารับการบำบัดอย่างต่อเนื่องจนเขาสามารถเลิกดื่มได้ในที่สุด”

“ดิฉันดื่มสุรามาเกือบ20ปีและขณะนี้เลิกดื่มได้8ปีแล้วค๊ะ แรงบันดาลใจที่ทำให้ดิฉันเลิกดื่มคือ เพื่อลูกสาวและเพื่อสุขภาพของตัวเอง เพราะว่าลูกสาวเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุอันเกิดจากการดื่มสุรา ขณะที่ดิฉันเองก็ป่วยหนักนอนอยู่โรงพยาบาลอันเนื่องจากการดื่มสุราเช่นกัน ประกอบกับสามีชาวต่างชาติที่เลิกกับดิฉันไปเพราะดิฉันดื่มสุรามากได้เดินทางมาเยี่ยมและดูแลเอาใจใส่ขณะที่ดิฉันป่วยอยู่ ทำให้ดิฉันรู้สึกว่ายังมีคนที่รักเราอยู่ จึงทำให้ดิฉันฮึดสู้ขึ้นมาที่จะต้องเลิกดื่มสุราให้ได้ พร้อมกับเข้ารับการบำบัดอย่างจริงจัง จนเลิกได้ในที่สุดค๊ะ”

นั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของคำตอบของคำถามที่ว่า “คุณมีแรงบันดาลใจอะไรที่ช่วยให้เลิกดื่มสุราได้สำเร็จ” จากการประมวลผลการสัมภาษณ์ พบว่า ผู้ติดสุราทุกรายที่เลิกดื่มสุราได้นั้น #จะเกิดแรงบันดาลใจที่จะเลิกให้ได้เพื่อใครและพื่ออะไร เช่นเพื่อตัวเอง เพื่อพ่อแม่ เพื่อลูกหลาน เพื่อคนที่เขารู้สึกว่าคนคนนั้นรักและปรารถนาดีต่อเขา เพื่อบุคคลหรือสิ่งที่เขาเทิดทูนบูชาอย่างยิ่งยวดเช่นเพื่อในหลวงเพื่อพระรัตนตรัยเพื่อพระผู้เป็นเจ้า เป็นต้น อนึ่ง การมีใครสักคนหรือสักกลุ่มที่ช่วยให้ผู้ที่ติดสุราเชื่อมั้นได้ว่ารักและจริงจังจริงใจต่อเขาจริงๆแม้ในยากเข็นนั้น เป็นหนึ่งในห้าข้อของวิธีการเพิ่มพลังใจ ที่ได้ผลเป็นอย่างดี ดังตัวอย่างที่นำเสนอผ่านมา

#หลักการสร้างพลังใจที่สำคัญห้าประการซึ่งกรมสุขภาพจิตได้สังเคราะห์ขึ้นนั้น #ใช้ได้กับทุกปัญหาและทุกรูปแบบในชีวิตนั่นคือ #1) มนุษย์เราต้องมีความรู้สึกดีและภาคภูมิใจในตนเอง #2) มนุษย์เราต้องรู้สึกและเชื่อได้ว่ามีใครสักคนหรือสักกลุ่มหนึ่งที่เชื่อมั้นได้ว่ารักและจริงจังจริงใจต่อเราจริงๆแม้ในยามลำบากยากเข็น #3)ต้องตั้งเป้าหมายในชีวิตทั้งระยะสั้นระยะกลางและระยะยาว #4) พบความสำเร็จในเป้าหมายที่ตั้งไว้เป็นระยะๆ และ #5)มีสายสัมพันธ์ที่เกื้อหนุนต่อตัวเราซึ่งอาจเป็นได้ทั้งบุคคลและสถาบันหรืออื่นๆที่แต่ละคนอาจให้คุณค่าต่อชีวิตที่ต่างกัน

ฮึดสู้ด้วยพลังใจเพื่อชัยชนะในชีวิต

ลักการและปรากฏการณ์เหล่านั้นสอดคล้องกับทฤษฏีแรงจูงใจของทั้งมาสโล(Abraham Maslow),แอลเดอร์เฟอร์(Clayton Alderfer)และแมคลลีแลนด์(David Mccleland) ที่อธิบายไว้ว่า มนุษย์เรานั้นต้องการทั้งความมั้นคงปลอดภัย,การได้รับการดูแลเอาใจใส่,ความรักความภูมิใจ,มิตรภาพและความผูกพันตลอดจนต้องการความสำเร็จในชีวิต และการได้รับการยอมรับนับถือซื่งก็คืออำนาจรูปแบบหนึ่งนั่นเอง ดังนั้นในการบำบัดรักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาสุขภาพจิตจากการเสพสุรา จึงพบอยู่เสมอว่า ภายใต้การบำบัดรักษาด้วยวิธีการเดียวกัน #หลายคนยังเลิกดื่มไม่ได้ #หลายคนเลิกดื่มได้สำเร็จ #ความแตกต่างที่พบได้ปัจจัยหนึ่งก็คือ “#กำลังใจหรือพลังใจหรือแรงจูงใจหรือแรงบันดาลใจ”นั่นเอง ซึ่งเกิดขึ้นภายในใจของผู้ป่วยและสัมพันธ์กับบุคคลใกล้ชิดที่ดูแลเขาอยู่

“#พลังใจ”#ใช่เพียงแต่ช่วยผู้ที่ติดสุราให้เลิกดื่มได้สำเร็จเท่านั้น #แต่ใช้ได้กับทุกเรื่องราวและทุกปัญหาในชีวิตที่ทุกคนคิดอยากจะสำเร็จ ทั้งชีวิตส่วนตัว,ครอบครัว,การเรียน,การทำงาน และการสังคมต่างๆ หากคนเรามีพลังใจหรือแรงบันดาลใจอย่างใหญ่หลวงดังที่ยกตัวอย่างผ่านมา พร้อมทั้งมองเห็นข้อดีที่เขาจะได้รับและจะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตได้ จะช่วยให้คนเรา #เกิดความรู้สึกฮึดสู้ขึ้นมา ซึ่งเป็นศักยภาพและพลังที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในตัวตนของมนุษย์ทุกคนอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าใครพร้อมที่จะลุกขึ้นมาฮึดสู้ในเรื่องอะไรเพื่อใครและเมื่อไหร่เท่านั้นเอง #แล้ววันนี้คุณลุกขึ้นมาฮึดสู้ต่ออุปสรรคที่คุณเจออยู่แล้วหรือยัง? #หากทำได้ความสำเร็จใดๆก็จะไม่ไกลเกินเอื้อม

วุฒิพงศ์ ถายะพิงค์

นักส่งเสริมสุขภาพจิตและนักพัฒนาคุณภาพมนุษย์แบบสหศาสตร์ประธานสถาบันพัฒนาคุณภาพมนุษย์ Wuttipong Academy Bangkok และกรรมการบริหารมูลนิธิสงเคราะห์ผู้ป่วยจิตเวชโรงพยาลสวนปรุง

Recommended Posts